วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เพื่อน

การสร้างเสริมสัมพันธภาพกับเพื่อน

เพื่อนมีความจำเป็นต่อคนเรา  เพราะเราไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังได้  โดยเฉพาะวัยรุ่นจะให้ความสำคัญกับเพื่อนเป็นอย่างมาก  การได้อยู่กับเพื่อนวัยเดียวกันจะทำให้วัยรุ่นมีผู้ที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุข ปรับทุกข์ เพราะต่างก็มีปัญหาคล้ายกัน  ดังนั้น  วัยรุ่นจึงมีความปรารถนาที่จะมีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน  เพราะจะนำมาซึ่งการยอมรับนับถือ  ความสัครสมานสามัคคี  และร่วมมือกันระหว่างกัน


                
การสร้างเสริมสัมพันธภาพกับเพื่อนมีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
              
1.  รู้จักตนเองและรู้จักผู้อื่น  นักเรียนต้องมีความเข้าใจในความต้องการของตนและของเพื่อน  ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตน ไม่ยึดถือข้อบกพร่องใดๆ ในร่างกายของตนเป็นปมด้อยจนขาดความมั่นใจในการคบหากับผู้อื่น  และยอมรับความแตกต่างในตัวเพื่อนกับตัวเอง  ไม่อิจฉาริษยาเพื่อนที่มีฐานะดีกว่าหรือมีความสามารถมากกว่า  และไม่ยกตนข่มท่านหรือดูถูกเหยียดหยามเพื่อนที่ด้อยกว่าตน  แต่ให้ยินดีกับความสำเร็จของเพื่อน  และคอยช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อนหากมีโอกาส
              
2.  มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  รู้จักพูด  รู้จักฟัง  เรียนรู้ที่จะพูดเรื่องต่างๆในจังหวะที่เหมาะสมเปิดโอกาสให้เพื่อนได้แสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน เอาใจใส่ในตัวเพื่อน และให้ความสำคัญกับเพื่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ตลอดจนมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อเพื่อน
               
3.  มองโลกในแง่ที่เป็นจริง  ไม่มองในแง่ดีจนเกินไป อันอาจถูกหลอกหลวงและคดโกงได้  แต่ก็ไม่ควรมองคนในแง่ร้ายจนเกินไป  เพราะจะทำให้เป็นคนใจแคบ  ไม่รู้จักการให้อภัย
               
4.  มีน้ำใจนักกีฬา  ยอมรับผิดเมื่อรู้ว่าตนผิด  ปฏิเสธในสิ่งที่ตนไม่สามารถทำได้  เมื่อให้สัญญาอย่างไรไว้กับใครก็ต้องพยายามทำตามสัญญานั้นให้ดีที่สุด  นอกจากนี้ยังต้องรู้จักเสียสละและให้อภัยแก่เพื่อนเมื่อเกิดข้อผิดพลาด  โดยทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดนั้น  และร่วมมือกับปรับปรุงแก้ไขตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
              
5.  รู้จักแนะนำและชักชวนเพื่อนปฏิบัติกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี  เรียนภาษาอังกฤษ เรียนคอมพิวเตอร์ เข้าร่วมในกิจกรรมพัฒนาต่างๆ ในชุมชุน โดยเลือกตามความสนใจและมีความเหมาะสมกับตนเอง จะได้เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น